Latest Posts


อุทยานแห่งชาติป่าแม่ปืม ได้ดำเนินการสำรวจและจัดตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 มีพื้นที่อยู่ใน จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ 356 ตารางกิโลเมตร หรือ 222,500 ไร่ โดยมีพื้นที่ 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย อ.เมือง จ.เชียงราย เนื้อที่ 67,500 ไร่
ส่วนที่ 2 อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปืมและป่าแม่พุง อ.พาน อ.ป่าแดง จ.เชียงราย อ.แม่ใจ อ.เมือง จ.พะเยา ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำแม่ปืม และป่าดงประดู่ อ.แม่ใจ อ.เมือง จ.พะเยา และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ฮ่องป้อ ป่าห้วยแก้ว และป่าแม่อิงฝั่งซ้าย กิ่ง อ.ภูกามยาว จ.พะเยา เนื้อที่ 248 ตารางกิโลเมตร หรือ 155,000 ไร่  พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแม่ปืมอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประมาณ 220 ตารางกิโลเมตร หรือ 137,431 ไร่ และอยู่ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประมาณ 136 ตารางกิโลเมตร หรือ 85,069 ไร่ ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติป่าแม่ปืมอยู่ระหว่างการดำเนินการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
 
ลักษณะภูมิประเทศ
ส่วนที่ 1 ลักษณะภูมิประเทศส่วนมากจะเป็นภูเขาสูงชัน และมีพื้นที่บนเขาน้อยมาก และยังเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่แก้วซึ่งตามลำน้ำจะมีลักษณะเป็นโขดหินที่สวยงามและมีน้ำไหลตลอดปี ทิศด้านลาดจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกและตะวันตก จุดที่สูงที่สุดจะอยู่ทางด้านทิศเหนือ

ส่วนที่ 2 ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันทอดตัวยาวจากทิศเหนือ-ใต้ ทิศด้านลาดจะอยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตกที่มีราบบนสันเขา ความกว้างโดยเฉลี่ยตลอด แนวกว้างประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยแม่ปืมซึ่งมีน้ำไหลตลอดปี จุดสูงที่สุดอยู่บริเวณทางด้านทิศเหนือ

ทิศเหนือ อำเภอเมือง ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ทิศใต้ จด อำเภอแม่ใจ ตำบลบ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา
ทิศตะวันออก ลำห้วยแม่อ้อและลำน้ำแม่คาว ท้องที่ตำบลแม่อ้อ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และจดอำเภอป่าแดด ตำบลศรีโพธิ์เงิน อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
ทิศตะวันตก จด ถนนสายพาน-เชียงรายท้องที่ตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จดอำเภอพาน ตำบลเวียงห้าว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

ลักษณะภูมิอากาศลักษณะภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติแม่ปืมเป็นแบบมรสุมเขตร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนธันวาคม 9-12 องศาเซลเซียส ปกติฝนตกหนักในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เฉลี่ยประมาณ 1,550 มิลลิเมตร ต่อปี

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าแม่ปืมประกอบด้วยป่าที่แตกต่างกันถึง 4 ประเภท คือ ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าสนเขา มีพรรณไม้ที่สำคัญ ได้แก่ สัก แดง ประดู่ มะค่าโมง ชิงชัน เต็ง รัง เหียง พลวง สนสองใบ และไม้วงศ์ก่อ เป็นต้น และด้วยความหลากหลายของพืชพรรณทำให้พบสัตว์ป่าประเภทนกอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 40 ชนิด นอกนั้นก็มีสัตว์ป่าอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เก้ง หมูป่า เสือ เป็นต้น
ข้อมูลจาก: thai.tourismthailand.org

อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน มีพื้นที่ทั้งหมด 462,775 ไร่ พื้นที่ประกอบไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรังภายในอุทยานฯ มีสัตว์หลายชนิด เช่น ตะพาบน้ำ ตะกวด นกชนิดต่างๆ โดยเฉพาะนกยูง นับเป็นอุทยานฯที่มีนกยูงมากที่สุดในภาคเหนือประมาณ 265 ตัว เป็นนกยูงเขียว (หรือนกยูงไทย) ชนิดพันธุ์ย่อยอินโดจีน ฤดูผสมพันธุ์ของนกอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี
สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ประกอบด้วย
ถ้ำใหญ่ผาตั้งเป็นถ้ำลึกประมาณ 800 เมตร มีหินงอกหินย้อยงดงามอยู่ทั่วไป บริเวณผาตั้งยังมีถ้ำขนาดเล็กอีกหลายแห่ง มีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภน.1 (ถ้ำผาตั้ง) คอยดูแลและอำนวยความสะดวก ถ้ำใหญ่ผาตั้งอยู่ห่างจากอำเภอปงไปประมาณ 23 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากบ้านผาตั้งไปอีก 1 กิโลเมตร
น้ำตกธารสวรรค์หรือน้ำตกบ่อเบี้ย ตั้งอยู่ในเขตติดต่อกับบ้านบ่อเบี้ยหมู่ที่ 6 ตำบลบ้านยาง อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา อยู่ในเขตป่าแม่ยมฝั่งขวามีลักษณะเป็นน้ำตกหิน 4 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นที่มีความสูงมากที่สุด ประมาณ 8 เมตร ชั้นที่ 2 สูงประมาณ 2.50 เมตร ชั้นที่ 3 และ 4 สูงประมาณ 2 เมตร มีต้นกำเนิดจากห้วยแม่ปิง ซึ่งประกอบด้วยลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน น้ำตกชั้นที่สวยที่สุดคือ ชั้นที่ 1 ซึ่งตกลงมาจากแผ่นหินปูนที่กว้างประมาณ 150 เมตร สภาพโดยรอบ ๆ จะเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าดิบชื้น และพื้นที่ทำเลของราษฎรบ่อเบี้ย
น้ำตกนาบัวตั้งอยู่ในเขตติดต่อกับบ้านบัว หมู่ที่ 4 ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ซึ่งอยู่ในเขตป่าแม่ยมฝั่งขวาเป็นน้ำตกหินปูนสามชั้น ชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 6 เมตร ชั้นที่ 2 อยู่ห่างจากชั้นที่ 1 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร สูงประมาณ 6 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร ชั้นที่ 3 อยู่ห่างจากชั้นที่ 2 ไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร มีต้นกำเนิดมาจากห้วยแม่จั๊งซึ่งมีน้ำไหลตลอด
น้ำตกห้วยต้นผึ้งเป็นน้ำตกขนาดเล็กมี 3 ชั้น ชั้นที่ 3 สูงประมาณ 40 เมตร และมีน้ำไหลตลอดปี การเดินทางใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1251 สายดอกคำใต้-เชียงม่วน เมื่อผ่านสามแยกบ้านบ่อเบี้ยไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบกับทางเข้าน้ำตกซึ่งเป็นทางเดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะพบกับธารน้ำตกชั้นเล็กชั้นน้อย
ฝั่งต้าตั้งอยู่ในเขตติดต่อกับบ้านไชยสถาน หมู่ที่ 4 ตำบลเชียงม่วน จังหวัดพะเยา มีสภาพคล้าย แพะเมืองผี คือ เป็นลักษณะของการกัดเซาะพังทะลายของดินที่ภูเขาเตี้ยๆ แห่งหนึ่ง ทำให้เกิดรูปร่างที่คงเหลืออยู่ภายหลังจากการพังทลายอย่างรุนแรงผ่านไปแล้ว มีรูปร่างคล้ายเสาแหลมๆ เรียงรายติดต่อกันเป็นแนวยาวประมาณ 200 เมตร สูงประมาณ 25 เมตร พื้นที่อยู่บริเวณรอยต่อของป่าน้ำปี้และป่าแม่ยมฝั่งซ้าย-น้ำควรฝั่งซ้าย สภาพพื้นที่เป็นภูเขามีทางลูกรังเชื่อมต่อกับบ้านไชยสถานได้ พื้นที่รอบๆ นอกจากจะมีเขตติดต่อกับที่ทำกินของราษฎรบ้านไชยสถานบนยอดเขาของฝั่งต้า ยังเป็นจุดชมทิวทัศน์และบริเวณพักผ่อนได้ เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างราบ มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ และสามารถมองเห็นความสวยงามได้รอบด้าน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางเดินเท้านี้จะพาไปสู่ธรรมชาติอันสวยงามของอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติได้จัดไว้ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ น้ำตกห้วยต้นผึ้ง และห้วยยั๊วะ

 ที่พัก
อุทยานแห่งชาติ ยังไม่ที่พัก-บริการไว้บริการนักท่องเที่ยว หากสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ ท่านสามารถนำเต็นท์และอาหารไปเอง หรือติดต่อขอใช้บริการเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติ รายละเอียดเกี่ยวกับที่พักเต็นท์ขอให้ติดต่อสอบถามกับอุทยานแห่งชาติโดยตรง

การเดินทาง    
 รถยนต์
- ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1091 สายอำเภอจุน-จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือติดต่อมาทางด้านทิศตะวันออกของป่าแม่ยมฝั่งขวา และตัดผ่านป่าปี้ไปยังอำเภอบ้านหลวงจังหวัดน่าน เป็นเส้นทางที่สะดวกสามารถใช้ได้ทุกฤดูกาล
- ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1120 สายอำเภอเชียงม่วน-อำเภอสอง ซึ่งอยู่ต่อจากทางหลวงจังหวัด หมายเลข 1091 ไปทางตอนใต้ ตัดผ่านป่าปี้ ไปยังอำเภอสอง จังหวัดแพร่ เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ใช้ได้ตลอดฤดูกาล
- ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1251 สายอำเภอดอกคำใต้-อำเภอเชียงม่วน ตัดผ่านป่าแม่ยมฝั่งขวา จากเขตตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ไปเชื่อมกับทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1091 สายอำเภอจุน จังหวัดน่าน ที่บริเวณบ้านสระ ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา มีระยะทางไปเขตป่าแม่ยม ขวางประมาณ 3.5 กิโลเมตร และเข้าไปบ้านนาบัว หมู่ 4 ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน ประมาณ 10 กิโลเมตร (บ้านนาบัวและบ้านห้วยก้างปลาอยู่ในเขตการปกครองหน่วยเดียวกันแต่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างกันไป)

ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง
หมู่ 6 ต.บ้านมาง  อ. เชียงม่วน  จ. พะเยา   56160
โทรศัพท์ 0 5448 9202 
ข้อมูลจาก: thai.tourismthailand.org



วนอุทยานแห่งชาติภูชี้่ฟ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ฟ้าทอง มีพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 พื้นที่วนอุทยานเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว [1]
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย–ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ภูชี้ฟ้า" จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 ถึง 1,628 เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไชยบุรี ประเทศลาว

Cr ภาพจากคุณ maximo
กว๊านพะเยา อยู่ในอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ และอันดับ 4 ในประเทศไทย  คำว่า “กว๊าน” ภาษาพื้นเมืองหมายถึง “บึง” กว๊านพะเยา จึงเป็นบึงน้ำอันกว้างใหญ่สุดสายตา โอบล้อมขุนเขาดอยแม่ใจ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านทิศตะวันตก ในยามเย็นและยามเช้าตรู่สีสันของท้องฟ้า และสายน้ำงดงามตรึงใจดังภาพเขียน เป็นภาพบรรยากาศอันแสนประทับใจที่ได้พบเห็นเมื่อมาเยือนเมืองพะเยาแห่งนี้

กว๊านพะเยา บึงแห่งศรัทธาพุทธศาสนา



ยามเย็นที่กว๊านพะเยา


ริมถนนชายกว๊านในเมืองพะเยา ซึ่งด้านหนึ่งเปิดโล่งสู่กว๊านพะเยา มีต้นมะพร้าวเรียงราย สร้างบรรยากาศเหมือนกับเมืองชายทะเล ผู้คนต่างพากันมาพักผ่อนนั่งรับประทานอาหาร บ้างก็เดินเล่นกินลมชมวิว ขี่จักรยานออกกำลังกาย พร้อมกับชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์อัสดงเหนือผืนน้ำอันเงียบสงบ  หากมาเที่ยวในวันสุดสัปดาห์ ตามร้านอาหารริมกว๊านต่างถูกจับจองด้วยนักท่องเที่ยวที่มานั่งกินดื่ม ชิมอาหารพื้นบ้าน ทั้งปลาเผา กุ้งเผา กุ้งเต้น ที่มีเรียงรายหลายร้าน  ถัดจากบริเวณนี้สามารถเดินเรื่อย ๆ ต่อไปยังถนนคนเดินที่จัดให้มีขึ้นในวันสุดสัปดาห์ มีสินค้าอาหารให้เลือกซื้อเลือกชิมกันมากมายหลากหลายชนิด ทั้งอาหารคาวหวาน เสื้อผ้า ของใช้ ของประดับตกแต่งมากมาย


อิ่มบุญสุขใจ ในยามเช้า
หากพักค้างสักคืนในเมืองพะเยา ลองตื่นเช้าเดินมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ริมกว๊านพะเยา จะพบกับบรรยากาศอันเงียบสงบ ที่บริเวณท่าเรือริมกว๊าน จะมีผู้คนมานั่งเรียงแถวเตรียมปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนเล็กๆ ไว้เพื่อรอใส่บาตรเป็นประจำทุกวัน สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อสำรับกับข้าว รวมทั้งข้าวเหนียวเป็นกระติ๊บเพื่อใส่บาตรได้ที่นี่เลย  เมื่อถึงเวลาประมาณ 7 นาฬิกา พระสงฆ์จะเดินมารับบิณฑบาตเป็นแถวเป็นแนว ก่อนจะขึ้นนั่งในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้เพื่อสวดให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มาทำ บุญเพื่อความเป็นสิริมงคล


นั่งเรือพาย ไหว้พระกลางน้ำ

หลังจากทำบุญใส่บาตรแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือพายไปนมัสการหลวงพ่อศิลากลางกว๊านพะเยา  ค่าบริการเพียงคนละ 20 บาท มีคนพายลำละ 2 คนและมีชูชีพให้นักท่องเที่ยวใส่เพื่อความปลอดภัย ใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 20 นาที  หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย อายุกว่า 500 ปี ค้นพบเมื่อปี 2526 ในบริเวณวัดติโลกอารามที่จมอยู่ใต้น้ำ  ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดศรีอุโมงค์คำ จนกระทั่งปี 2550 จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับไปประดิษฐานบริเวณที่เป็นที่ตั้งของวัดติโลก อาราม กลางกว๊านพะเยา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเรือไปสักการะบูชา และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำของเมืองพะเยา


เวียนเทียนกลางน้ำ

เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 3 เดือน 6 และเดือน 8 ซึ่งตรงกับมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา จะมีพิธีเวียนเทียนกลางน้ำในยามใกล้ค่ำ ชาวเมืองต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียน ล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์หลวงพ่อศิลากลางน้ำ 3 รอบ กว๊านพะเยาในยามนี้จะงดงามด้วยแสงประทีบท่ามกลางสีสันของท้องฟ้าและผืนน้ำ กว้างใหญ่ในวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นอีกภาพหนึ่งที่น่าประทับใจไม่เหมือนใครในโลก


ด้วยบรรยากาศของเมืองริมน้ำที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เมืองพะเยา เป็นเมืองที่น่าพักผ่อนท่องเที่ยว และยังได้รับความสุขสวัสดีจากการร่วมทำบุญและสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ที่ชาวเมืองได้ร่วมกันรักษาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม
ข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย / wiki / fotorelax.com
ภาพโดย คุณ นายขอไข่
เรียบเรียงโดย Travel MThai

กว๊านพะเยา ศูนย์กลางของเมืองพะเยา


        กว๊านพะเยานั้น ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองพะเยา และยังเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และนับเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่ใจกลางเมืองพะเยา หรือจะพูดให้ถูกคือเมืองพะเยานั้นสร้างขึ้นล้อมรอบกว๊านพะเยาแห่งนี้ 

        โดยรอบๆ กว๊านพะเยานั้นมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชิว พักผ่อนกันริมน้ำกว๊าน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการจัดงานเทศการต่างๆ ของทางจังหวัดพะเยาอีกด้วย ในยามกลางคืนรอบๆ ชายกว๊านจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ ต่างๆ เปิดให้บริการอย่างมากมาย ในราคาที่สบายกระเป๋านักเที่ยวแน่นอน 

        โดยส่วนตัวของเจ้าของ blog นี้ผมมองว่าพะเยาเป็นเมืองเล็กๆ ที่อบอุ่นมาก ยังคงมีวิถีชีวิตแบบพื้นเมืองของชาวเหนืออยู่อย่างเปี่ยมล้น เมืองที่ไม่รีบไม่เร่ง ใช้ชีวิตเรื่อยๆ เหมาะกับการหนีออกจากชีวิตเมืองกรุง หลบมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ลองชมภาพประกอบด้านล่างนี้เลยนะครับ